วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Learning log 10 (นอกห้องเรียน)

Learning log 10 (นอกห้องเรียน)
                การหาความรู้ศึกษาเพิ่มเติมอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เป็นคนเก่งได้  และการที่ใครคนหนึ่งจะเก่งได้นั้นไม่จำเป็นเสมอไปว่าเขาคนนั้นจะต้องเก่งมาตั้งแต่กำเนิด แต่เราสามารถเก่งได้จากการพยายามฝึกฝน ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมอย่างสม่ำเสมอ อ่านหนังสือเยอะๆ ฝึกฝนทักษะด้านต่างๆ เหล่านี้ต่างหากที่จะทำให้เราเก่งขึ้นมาได้อย่างแท้จริง สำหรับสัปดาห์นี้ดิฉันก็ยังเลือกที่จะศึกษาผ่านการฟังเพลงอีกเช่นเคย เพราะความสะดวกมากไม่ว่าเราจะทำอะไรอยู่เราก็ยังสามารถเปิดเพลงฟังไปพร้อมๆกันได้ด้วย
            เพลงที่ดิฉันเลือกฟังคือเพลง Number One For Me ของศิลปิน Maher Zain ความหมายของเพลงนี้คือ ที่หนึ่งสำหรับฉัน เป็นเพลงที่ลูกคนหนึ่งได้พูดเกี่ยวกับความรักที่มีต่อแม่ For all time I made you cry. ประโยคนี้หมายถึง หลายครั้งมากที่ผมทำให้แม่ร้องไห้ จากสำนวน I made you cry. เป็นประโยค Past Simple Tense สังเกตได้จากกริยา made ซึ่งเป็น verb ช่องที่ 2 ของคำว่า make ซึ่งเราสามารถรู้ได้จากโครงสร้าง S + V.2 …….
            Now it’s time for you to rise. แปลว่า ตอนนี้ถึงเวลาที่แม่จะต้องยืนขึ้นมา For all the things you sacrificed. หมายถึง เพื่อรับสิ่งดีๆ จากการเสียสละทั้งหมดนั้น สำนวนที่ว่า sacrificed จะหมายถึง การเสียสละ เป็นการเสียสละของผู้ที่เป็นแม่ที่ยอมเสียสละทำให้ได้ทุกอย่างเพื่อลูก คำว่า sacrificed นี้ จะแปลว่า สละ ละทิ้ง ปล่อยวาง หรือ บริจาค ก็ได้ ขึ้นอยู่กับรูปแบบของประโยคทีเราจะใช้มัน
            I’d like to put a smile on your face every day. แปลว่า ผมอยากให้แม่ยิ้มได้ตลอดทุกวัน I’d เป็นคำที่ย่อมาจากคำเต็มๆ ว่า I would เป็นการนำ Modal Verb มาใช้ ในที่นี้ would หมายถึง อยากจะ หรือจะแปลว่า คงจะ จะ ชอบ น่าจะ มักจะ ก็ได้ เช่น I believe that she would marry him. แปลว่า ฉันเชื่อว่าหล่อนน่าจะแต่งงานกับเขา จะเห็นได้ว่าในประโยคนี้ would หมายถึง น่าจะ
            อีกเพลงที่ดิฉันเลือกฟังคือเพลง Because Of You ของศิลปิน Kelly Clarkson ความหมายของเพลงนี้คือ เพราะเธอ เป็นเพลงที่พูดถึงความรักของคนหนุ่มสาว Cause my heart so much misery. ประโยคนี้แปลว่า เพราะหัวใจฉันมันทุกข์ทรมานเหลือเกิน misery เป็นคำนาม จะมีความหมายว่าความทุกข์ยาก ความสาหัส น่าสังเวช ความยากแค้น ความเดือดร้อน ซึ่งดูรวมๆ แล้ว คำๆ นี้จะมีความหมายไปในด้านลบ ไม่มีความสุข ซึ่งจะตรงกับสำนวนที่ว่า Where there is love there is misery. หมายถึง ที่ใดมีรักที่นั่นย่อมมีทุกข์
            I never stray too far from the side walk. สำนวนนี้แปลได้ว่า ฉันไม่เคยออกไปนอกทางเดินนี้เลย I learned to play on the safe side so I don’t get hurt. แปลได้ว่า ฉันเลือกที่จะใช้หัวใจอย่างปลอดภัยเพื่อจะได้ไม่ต้องเจ็บ hurt จะมีความหมายได้ว่า ความเจ็บปวด บาดเจ็บ บอบช้ำ อย่างเจ็บปวด อันตราย หรือในบางครั้ง คำว่า hurt จะใช้ในการแสดงความเจ็บปวดจากการอกหักก็ได้ด้วย
            I watched you die. หมายถึง ฉันมองดูเธอตาย ในสำนวนนี้เราจะเห็นได้ว่าเป็นประโยค Past Simple Tense รู้ได้จากโครงสร้าง S + V.2 ….  Because of you เพราะเธอ you หรือ เธอในที่นี้อาจจะหมายถึงคนรักที่ทิ้งเราไป แล้วทำให้เจ็บปวดจนกลัวที่จะมีความรักใหม่อีกครั้ง อย่างไรก็ตามหากคิดจะรักใคร ชอบใครก็ควรจะเผื่อใจเอาไว้ เพราะวันหนึ่งเขาอาจจะทิ้งเราไปก็ได้ ควรจะรักตัวเองให้มากๆ ความรักที่รักไปแล้วไม่มีความเจ็บปวด คือ การรักพ่อแม่

            จากการที่ได้ศึกษาจากการฟังเพลงทำให้ได้ฝึกฟังและตีความหมายของเนื้อเพลงที่ฟังได้ การทีจะเป็นคนเก่งได้ก็ต้องฝึกฝนจากจุดเล็กๆ ฝึกฝนบ่อยๆ จนติดเป็นนิสัย จะทำให้เราเก่งได้ไปโดยอัตโนมัติ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น